วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เฉลิมฉลอง 57 ปีแห่งเอกราชกัมพูชา



ประชาชนกว่า2,000 ชุมนุมกันที่อนุสารีย์เอกราชในกรุงพนมเปญ  ซึ่งวันนี้จะมีพิธีครบรอบ 57 ปีของประเทศที่ได้รับการปดปล่อยจากอาณานิคมอินโดจีนของฝรั่งเศส วงดนตรีได้เล่นสดุดีด้วยความรักชาติ ที่มีทั่งประฃาชน นักเรียนนักศึกษา นักการทูต  ตำรวจ  กองทัพกัมพูชา และบางคนก็จะถือรูปภาพพระเจ้านโรดมสีหมุนี และรูปพ่อ (พระเจ้านโรดมสีหนุ) ฝูงชนเฝ้าดูราชการอาวุโสวางพวงมาลาที่อนุสารีย์


พระเจ้านโรดมสีหมุนีวางพวงมาลาที่ฐานอนุสาวรีย์และจุดชนวนเปลวไฟอยู่ภายในศูนย์กลางประลำพิธี   ตามกระนั้นประเพณีเดิมเปลวไฟที่จุดจะยังคงอยู่ตลอดสามวัน ซึ่งจะมีมหาดเล็กเฝ้า และเปลวไฟนี้จะมอดลงโดยพระเจ้านโรดมสีหมุนีในวันพฤหัสบดี   


วันประกาศเอกราชมีเมื่อ 9พฤษจิกายน 1953 (2496)  กัมพูชาได้รับอิสรภาพจากฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ในอาณานิคมเป็นเวลา 90 ปี มันลงเอยเมื่อพระเจ้านโรดมสีหนุพูดว่า  สงครามครูเสดสู่ความเป็นอิสรภาพ ซึ่งต่อมากลายเป็นที่คุ้นเคยพันธะของหน้าที่ของการเมืองกัมพูชา     นาย Tea Banh รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูในวันที่ พฤษจิกายนเป็นวันที่สำคัญของประชาชนกัมพูชา  โดยเฉพาะ สมาชิกในกองทัพที่การเสียสละของพวกเขาที่มีอยู่เพื่อป้องกันอาณาเขตของประเทศเพื่อความมั่นคง  มันเป็นการยืนยันที่กัมพูชามรฃีอิสรภาพและความมั่นคงทางการเมืองเพื่อการพัฒนาประเทศ “เขาพูดในพิธี”



นาย Yim Sovann โฆษกฝ่ายค้าน พรรค Sam rainsy   พูดขอบคุณที่พระเจ้านโรดมสีหนุสามารถนำกัมพูชาต่อสู้เพื่อเอกราช  แต่ว่าเขาพูดว่ารัฐบาลต้องมีรฃนโยบายที่แน่นอนนกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ไทย และเวียดนามที่จะต้องยอมรับในเอกราช และอธิปไตยของกัมพูชา



“เขาได้ขอบคุณ สีหนุ แต่เขาก็พูดถึงเรื่องปัญหาเขตแดนในปัจจุบันกับเพื่อนบ้านที่จะเป็นปัญหาเกี่ยวกับอธิปไตยของกัมพูชาในอนาคตนี้



เมื่อเร็วๆนี้ SRP  ได้กล่าวถึงรัฐบาลต้องกลับไปพิจารณาถึงกรณีเวียดนามล่วงล้ำพรมแดนกัมพูชา  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น